|
|||
หากกิจการไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ และกรรมการที่ร่วมกันจัดตั้งตัดสินใจที่จะเลิกกิจการ ดังนั้น จึงต้องทำการจดทะเบียนเลิกกิจการและชำระบัญชีให้เรียบร้อย และนำส่งต่อกรมพัฒนาธุรกิจ เพื่อให้ได้รับทราบว่า กิจการดังกล่าวได้หยุดการดำเนินงานแล้วอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้จะต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ วันเลิกกิจการให้เรียบร้อยต่อกรมสรรพากรด้วยเช่นกัน การจดทะเบียนเลิกกิจการก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากโดยเฉพาะในส่วนการชำระบัญชี ซึ่งต้องมีการจัดทำงบเลิกกิจการที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะต้องตรวจสอบและรับรองว่าถูกต้อง บางท่านอาจสงสัยว่างบเลิกกิจการกับงบการเงินปกติแตกต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบ ดังนี้ ความแตกต่างระหว่างงบการเงิน ณ วันเลิกกิจการ (งบเลิกกิจการ) กับงบการเงินปกติ คือ งบการเงิน ณ วันเลิกกิจการจัดทำเพื่อนำเสนอให้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับกิจการได้ทราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วันเลิกกิจการ แต่งบการเงินปกติจะนำข้อมูลไปวิเคราะห์ฐานะการเงิน หรือผลการดำเนินงานของกิจการในรอบปีปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับรอบปีที่ผ่านมา อีกทั้งการจัดทำงบการเงิน ณ วันเลิกกิจการอาจใช้นโยบายการบัญชีที่แตกต่างจากการจัดทำงบการเงินปกติ เช่น การตีราคาสินทรัพย์ ตามมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับของสินทรัพย์นั้น ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทำให้งบการเงินเปรียบเทียบกันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้เจ้าของกิจการที่คิดจะเลิกกิจการ อย่าคิดแต่เพียงว่า เมื่อไม่อยากดำเนินงานต่อ ก็แค่ “หยุด” หรือ “เลิก” เฉยๆ โดยไม่ไปจดเลิกกิจการ ทำให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร คิดว่ากิจการยังดำเนินอย่างปกติ แต่เจ้าของกิจการเพิกเฉย ไม่ยื่นงบการเงิน ไม่ชำระบัญชี ไม่ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี อาจเป็นเหตุให้ได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับได้
แนะนำบทความที่เกี่ยวข้อง
โดยทีมงาน AMTaudit & AMTsolution
|
|||