|
|||
ความเหมาะสมในการจัดตั้งบริษัทของเจ้าของธุรกิจนั้น อาจจะเหมาะกับการจัดตั้งในรูปแบบบริษัทหรือรูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจที่จะจัดตั้ง ซึ่งโดยทั่วไปที่ปรึกษาในการจัดตั้งบริษัท มักจะให้คำแนะนำให้จดทะเบียนในรูปแบบของบริษัทมากกว่า ซึ่งก็มาจากข้อดีดังต่อไปนี้ 1. ความน่าเชื่อถือ บริษัทจำกัดมีความมั่นคงและน่าเชื่อถือมากกว่า ยิ่งถ้าหากธุรกิจนั้นๆ ต้องติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก ต้องการความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ การจดทะเบียนบริษัทจะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกว่า 2. ความรับผิดชอบการขาดทุนของบริษัท หากจดทะเบียนบริษัท ความรับผิดชอบเมื่อธุรกิจเกิดการขาดทุนจะรับผิดชอบเพียงแค่หุ้นที่ลงทุนไปเท่านั้น หากเกิดการฟ้องร้องภายหลังทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนจะไม่ถูกนำมาเกี่ยวข้อง แต่หากเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น ความรับผิดชอบจะขึ้นอยู่กับประเภทการลงทุน ดังนี้ : หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนผู้จัดการ) : ต้องรับผิดชอบนอกเหนือจากเงินที่ลงทุนไป : หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนทั่วไป) : รับผิดชอบแค่ในส่วนที่ลงทุนไปเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบเกินกว่าที่ลงทุนไป 3. ความยุ่งยากในการจดทะเบียนไม่ต่างกัน หลายคนคิดว่าการจดทะเบียนบริษัทมีความยุ่งยากและต้องใช้เวลามากกว่าการจดห้างหุ้นส่วนจำกัด แต่จริงๆ แล้ว ปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทใช้ระยะเวลาเพียง 1 วัน เท่ากับการจดห้างหุ้นส่วนจำกัด การติดต่อทำธุรกิจในปัจจุบัน สิ่งที่คู่ค้าหรือลูกค้าให้ความสำคัญมากๆ คงหนีไม่พ้นความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งก็จะรวมไปถึงความสามารถในการชดใช้ในกรณีเกิดความเสียหายต่างๆ ทุนจดทะเบียนก็เป็นสิ่งที่ให้ความมั่นใจได้อีกส่วนหนึ่ง ด้วยเหตุผลต่างๆ นี้การจัดตั้งบริษัทโดยจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัดจึงค่อนข้างได้รับการแนะนำมากกว่านั่นเอง แนะนำบทความที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติตามมาตรฐาน TSQC1 บังคับใช้แต่เฉพาะกับสำนักงานสอบบัญชีที่ตรวจสอบลูกค้าบริษัทจดทะเบียนเท่านั้นใช่หรือไม่ : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=119
โดยทีมงาน AMTaudit & AMTsolution (Audit & Assurance Services) |
|||