|
|||
จ้างคนทำบัญชีดีที่สุด สำหรับการเริ่มทำธุรกิจ หลายท่านเข้าใจว่าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างมันสามารถเริ่มต้นได้ง่ายดาย แค่มีความรู้เรื่องธุรกิจ มีเงิน มีเพื่อนก็ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ทันที หากมีเงินมาก ๆ ก็จ้างพนักงานไว้เยอะ ช่วยแก้ปัญหาให้บริษัท แค่นี้ก็สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก แต่ในความเป็นจริง การจะเป็นบริษัทที่ดีและสมบูรณ์ ไม่ได้แค่มีคนเพียงพอ แต่ในแต่ละบริษัทต้องมีคนที่เชี่ยวชาญไว้ดำเนินการงานที่เป็นการเฉพาะด้วย เช่นงานที่เกี่ยวข้องกับบัญชี และ การเงิน เป็นเรื่องที่ใหญ่มากหากเกิดความผิดพลาดในการทำบัญชี โดยเฉพาะการยื่นภาษี หากผิดพลาดไปไม่เพียงแค่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือ ต้องโดนสอบบัญชีกันเยอะแยะมากมาย ในบริษัทใหญ่ ๆ มากมายเริ่มแรกก็มีเพียงแผนกบัญชีที่ทำทุกอย่าง ต่อมา ก็ต้องแยกเป็น แผนก บัญชี แผนก การเงิน และแผนกภาษีอากร เพราะงานภาษีเป็นอะไรที่แสนจะซับซ้อน ซึ่งคนที่ทำจะต้องเชี่ยวชาญพอสมควร จึงจะทำได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน เอาแค่เก็บเอกสารต่างๆเราก็แทบกระอักเลือดตาย เพราะมันมีมากมายและหลากหลายซะเหลือเกิน ที่สำคัญ แต่ละประเภทมันมีรายละเอียดปลีกย่อย ยิบยับจนเราสับสนไปหมด ตัวอย่างบัญชีคร่าว ๆที่เราต้องทำเมื่อเปิดบริษัทใหม่ เช่น บัญชีรายวัน ที่มีทั้งบัญชีเงินสด บัญชีรายวันซื้อ ขาย และ บัญชีรายวันทั่วไปที่ต้องดำเนินการ บัญชีแยกประเภท ที่ต้องมี บัญชีแยกประเภทสินทรัพย์ หนี้สิน บัญชีแยกประเภทรายได้ ค่าใช้จ่าย บัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้ ลูกหนี้ แล้วยังต้องมี บัญชีสินค้า สุดท้ายก็ บัญชีรายวัน แค่นี้หากต้องจ้างพนักงานเพื่อมาทำหน้าที่บัญชี ก็เยอะจนทำไม่ทัน ลองมาดูหน้าที่หลักที่เราจะต้องทำเกี่ยวกับงานบัญชีและภาษีของบริษัทเปิดใหม่ 1.จะต้องมี ผู้ทำบัญชี ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตามพรบ.บัญชี พ.ศ. 2543 ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีของบริษัท 1 คน เพื่อเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีของนิติบุคคล ทั้งนี้อาจเป็นพนักงานของนิติบุคคล ผู้รับทำบัญชีอิสระ หรือสำนักงานรับทำบัญชีก็ได้ 2. จัดทำบัญชีตามกฏหมาย ที่มีหัวข้อเยอะแยะตามประเภทกิจการ นับตั้งแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนเป็น บริษัท และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ให้กับ ผู้ทำบัญชี ให้ถูกต้องครบถ้วน 3. ต้องจัดให้มีการปิดบัญชี ในครั้งแรกภายใน 12 เดือนหลังจากจดทะเบียนบริษัท และต้องปิดบัญชีทุกรอบ 12 เดือน นับแต่วันปิดบัญชีครั้งล่าสุด พร้อมจัดทำงบการเงิน อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งทุกรอบ 12เดือน ซึ่งงบการเงินต้องมีผู้สอบบัญชีมาตรวจสอบ และนำเสนอที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทให้อนุมัติงบการเงินภายใน 4 เดือน นับแต่วันปิดรอบปีบัญชีของบริษัท ถึงแม้ บริษัท จะยังมิได้ประกอบกิจการก็ตาม จะต้องส่งงบการเงินด้วย หากไม่ปฎิบัติตามก็มีโทษตามมา ต้องโทษปรับสูงสุดไม่เกินห้าหมื่นบาทเลยทีเดียว เอาแค่งานบัญชีเบื้องต้นเราก็แทบสลบ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SME ที่เกิดใหม่ทั้งหลาย จะขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ แล้วยังดันทุรังจะทำบัญชีเอง ถึงปลายปีเรียกผู้สอบบัญชีมารับรองใครจะกล้าเซ็นให้ นอกจากจะต้องมานั่งตรวจใหม่ตั้งแต่ต้น ถ้าพบว่ามีจุดผิด ทีนี้ละงานช้าง ต้องมานั่งไล่ที่มาที่ไปกันยาวยืด และนั่นคือสัญญาณแห่งการมีค่าใช้จ่ายในการตรวจบัญชี ซึ่งมันก็จะสูงตามความยุ่งยาก และยังเสียเวลา เผลอไม่ส่งให้ สรรพากร โดนค่าปรับแบบต่อเนื่องไปอีกยาว เมื่อตรวจสอบผ่านแล้วเสร็จ อายุความยังยาวไปอีกถึง 5 ปี เรียกว่า น่วมทั้งสมองและเงินในกระเป๋า ฉะนั้นทางที่ดี เราจ้างให้พวกผู้เชี่ยวชาญทางบัญชีมาแก้ปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นน่าจะดีกว่าต้องคอยมาแก้ปัญหาตามหลัง สู้เอาเวลาไปต่อยอดธุรกิจน่าจะคุ้มกว่า นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ต้นทุนแรงงานคนแล้ว ยังช่วยให้เราจัดการเรื่องภาษีได้อย่างถูกต้อง จ้างเขามาทำซะตั้งแต่เริ่มต้นเราจะเสียค่าใช้จ่ายจริงตามที่ตกลง ดีกว่าการเรียกใช้บริการหลังจากเกิดปัญหาแล้วให้เขาแก้ทีหลัง รับรองได้ว่าจะโดนเรียกเก็บค่าดำเนินการแพงมาก นักบัญชีที่เป็นมืออาชีพจริงๆนอกจากจะช่วยให้งานของเราราบรื่น ถูกต้อง ชัดเจน ยังช่วยชี้แนะจุดผิดพลาดที่ก่อให้เกิดการรั่วไหลของเงินโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในธุรกิจของเรา และวิธีแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถประหยัดภาษีได้โดยไม่มีความเสี่ยงที่จะโดนเรียกย้อนหลัง ทั้งถูกเงินและถูกกฎหมาย เราสามารถเรียนรู้งานจากนักบัญชีมืออาชีพเหล่านี้ และเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในที่สุด เราจะกลายเป็นนักธุรกิจที่เก่งรอบด้านทั้งการบริหารงาน บริหารคนและบริหารเงินอย่างมืออาชีพ การเริ่มต้นวางแผนที่ดี ย่อมทำให้การงานของเราราบรื่น และมีประสิทธิภาพ จ้างนักบัญชีดีๆสักคนที่จะสามารถทำงานทุกอย่างแทนเรา เอาเวลาที่จะต้องนั่งเคลียบัญชี ไปขยายฐานลูกค้าจะดีกว่า สร้างรายได้ให้เยอะๆ ส่วนงานเอกสารกองเท่าภูเขา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ นักบัญชีเขาเถอะ สำหรับการจ้างพนักงานบัญชีมาประจำบริษัทก็เป็นอีกหนทางที่เราทำได้ ถ้าเราได้คนที่เก่งจริงมาทำงาน แต่นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายประจำของเราก็จะงอกตามมาอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน ไหนจะสวัสดิการอื่นที่พนักงานคนหนึ่งพึงไดรับตามกฎหมายอีก มันคงไม่คุ้มสักเท่าไหร่ ถ้าเราเป็นเพียงกิจการเล็กๆ ถ้าธุรกิจเราใหญ่โตขึ้นมาในวันข้างหน้า เราค่อยหาคนที่เหมาะสมมาตอนนั้นก็ไม่เสียหาย เพราะกิจการใหญ่เอกสารก็ต้องเยอะตาม การมีพนักงานประจำในตอนนั้นคงคุ้มค่าเราก็ไม่ว่ากัน นักบัญชีเก่งหรือไม่เก่ง วัดกันได้ตอนเจอเจ้าหน้าที่สรรพากรนี่แหละ นอกจากเรื่องกฎหมาย หลักการบัญชีแล้ว ความสามารถในการเจรจาต่อรองก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักบัญชีมืออาชีพ เขาจะสามารถรักษาผลประโยชน์ให้เราได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางคนเมื่อสรรพากรเรียกสอบขอเข้าไปแทนเราด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นย่อมเป็นไปตามข้อตกลงที่เราได้ทำเอาไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราทำเองไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำแทนเราแน่ๆ ตัดสินใจจ้างนักบัญชีมืออาชีพดีๆสักคนเถอะ เพื่อความก้าวหน้าและประสพผลสำเร็จในธุรกิจตามที่เราคาดหวัง BY : AMTaudit บทความแนะนำ เตรียมตัวอย่างไร ให้สอบ CPA ได้ภายใน 3 ปี : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=23 มาตรการบัญชีเล่มเดียว : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=9 มาตราการภาษีเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลระทบอุทกภัย : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=53 โดยทีมงาน AMTaudit & AMTsolution บริการรับตรวจสอบบัญชี และ บริการตรวจสอบภายใน (Audit & Assurance Services)
Office : 02-184-1846 and 02-309-3550
|
|||